ระบบยื่นฟ้องและส่งคำคู่ความ (e-Filing)
สำนักงานศาลยุติธรรมร่วมกับกรุงไทยพัฒนายกระดับระบบศาลดิจิทัลสู่
e-Filing
Version 3
นายสราวุธ
เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม
นายผยง ศรีวณิช
กรรมการผู้จัดการใหญ่
ธนาคารกรุงไทย ร่วมแถลงข่าวการยกระดับระบบศาลดิจิทัล สู่ระบบการยื่นคำฟ้องอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) Version 3
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพิจารณาพิพากษาคดี และความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น
โดยทนายความทั่วประเทศ สามารถยื่นคำฟ้องอิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางเว็บไซต์
ไม่ต้องเดินทางไปยื่นฟ้องที่ศาล
ขณะที่จำเลยสามารถยื่นคำให้การผ่านระบบได้เช่นเดียวกัน
ด้านผู้พิพากษาสามารถรับฟ้องทางอิเล็กทรอนิกส์ หากคดีไม่ยุ่งยาก
ไม่ต้องทำสำนวนกระดาษ ศาลไม่ต้องหาพื้นที่จัดเก็บสำนวนที่มีเพิ่มมากขึ้น
และคู่ความยังสามารถติดตามคดีได้ตลอด 24
ชั่วโมง
ตอบโจทย์พันธกิจที่จะพัฒนาและสร้างระบบสนับสนุนอำนวยความยุติธรรมให้มีความรวดเร็ว
สะดวก ทันสมัย และเป็นสากล
นายสราวุธ
เบญจกุล เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารกรุงไทยและสำนักงานศาลยุติธรรม
ได้ลงนามความร่วมมือในการพัฒนาระบบศาลดิจิทัล
เพื่อส่งเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพในการพิจารณาพิพากษาคดี การบริหารจัดการ และการให้บริการประชาชน
เชื่อมฐานข้อมูลในกระบวนการยุติธรรม เพิ่มความสะดวกสบายในการให้บริการประชาชน
โดยร่วมกันพัฒนาและขยายผลระบบการยื่นและส่งคำคู่ความและเอกสารโดยสื่ออิเล็กทรอนิกส์
(e-Filing) ให้ครอบคลุมศาลชั้นต้นทั่วประเทศ
ซึ่งขณะนี้ศาลซึ่งพิจารณาคดีแพ่ง 148
แห่งจาก 157
แห่งทั่วประเทศได้เข้าร่วมโครงการ มีผู้ใช้บริการกว่า 3,267 คดีแล้ว
“ที่ผ่านมา ธนาคารและสำนักงานศาลยุติธรรม ได้นำระบบเทคโนโลยีมาใช้ในระบบงานต่างๆ
เพื่อยกระดับระบบศาลดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยร่วมพัฒนาระบบ e-Filing อย่างต่อเนื่อง
และขณะนี้ได้เข้าสู่ Version
3
ด้วยการนำระบบการยื่นคำฟ้องอิเล็กทรอนิกส์มาใช้
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพิจารณาคดีความมากยิ่งขึ้น ช่วยอำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหาให้กับทนายความทั่วประเทศที่ขึ้นทะเบียนในระบบจำนวน
2,808
คน ซึ่งแต่ละปีต้องยื่นฟ้อง1.2 ล้านคดี
หากมาใช้ระบบ e-Filing
จำนวนมากจะช่วยให้ศาลสามารถ
ลดพื้นที่การจัดเก็บสำนวนกระดาษที่ศาลได้ขึ้นอีกมาก”
นายผยง
ศรีวณิช กล่าวว่า e-Filing Version 3 นี้
ทนายความสามารถยื่นคำฟ้องทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านทางเว็บไซต์ ได้ตลอด 24
ชั่วโมง โดยไม่จำเป็นต้องยื่นคำฟ้อง
ทางด้านจำเลยสามารถยื่นคำให้การได้ ขอคัดถ่ายและดูเอกสารในสำนวนคดี
รวมทั้งสามารถติดตามเอกสารได้ตลอดเวลา ส่วนเจ้าหน้าที่ศาลสามารถตรวจสอบเอกสารยื่นคำฟ้อง
คำร้อง พร้อมให้ความเห็นและส่งงานให้ผู้พิพากษาได้
ซึ่งผู้พิพากษาสามารถประทับรับฟ้องได้
“ระบบ e-Filing
Version 3 ปัจจุบัน สามารถรองรับการพิจารณาคดีในส่วนของคดีแพ่ง
โดยทางสำนักงานศาลยุติธรรมมีแผนขยายไปยังการพิจารณาคดีอาญา และขยายการให้บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
ทางธนาคารพร้อมจะสนับสนุนสำนักงานศาลยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง”
นายผยง
ศรีวณิช ได้กล่าวในตอนท้ายว่า ธนาคารเป็นผู้ให้บริการรับชำระเงินกับผู้ใช้บริการ e-Filing ค่าธรรมเนียมต่างๆของสำนักงานศาลยุติธรรมอย่างครบวงจร ด้วยการชำระผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต
เคาน์เตอร์ธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม เว็บไซต์
ตลอดจนแอปพลิเคชั่นกรุงไทย NEXT การร่วมมือกับสำนักงานศาลยุติธรรม
เพื่อพัฒนาระบบศาลดิจิทัล
ถือเป็นหนึ่งภารกิจที่ธนาคารให้ความสำคัญ โดยเป็น 1 ใน 5 Ecosystems ของธนาคาร
- ที่มาของคำฟ้องอิเล็กทรอนิกส์
(e-Filing) Version 3 เพื่อตอบโจทย์พันธกิจที่จะพัฒนาและสร้างระบบสนับสนุนอำนวยความยุติธรรมให้มีความรวดเร็ว
สะดวก ทันสมัย และเป็นสากล
- เพิ่มประสิทธิภาพในการพิจารณาพิพากษาคดี
และความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น
- ทนายความทั่วประเทศ
สามารถยื่นคำฟ้องอิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางเว็บไซต์
ไม่ต้องเดินทางไปยื่นฟ้องที่ศาล
- จำเลยสามารถยื่นคำให้การผ่านระบบได้เช่นเดียวกัน
- ผู้พิพากษาสามารถรับฟ้องทางอิเล็กทรอนิกส์
หากคดีไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องทำสำนวนกระดาษ
- ศาลไม่ต้องหาพื้นที่จัดเก็บสำนวนที่มีเพิ่มมากขึ้น
- คู่ความยังสามารถติดตามคดีได้ตลอด
24 ชั่วโมง
- สถานการณ์ของการยื่นฟ้องในปัจจุบัน
- ธนาคารกรุงไทยและสำนักงานศาลยุติธรรม
ร่วมกันพัฒนาและขยายผลระบบการยื่นและส่งคำคู่ความและเอกสารโดยสื่ออิเล็กทรอนิกส์
(e-Filing)
- ครอบคลุมศาลชั้นต้นทั่วประเทศ
ซึ่งขณะนี้ศาลซึ่งพิจารณาคดีแพ่ง 148 แห่งจาก 157 แห่งทั่วประเทศได้เข้าร่วมโครงการ
- มีผู้ใช้บริการกว่า
3,200 (3,267) คดีแล้ว
- ทนายความทั่วประเทศที่ขึ้นทะเบียนในระบบประมาณจำนวนประมาณ
2,800 (2,808) คน
- มีการปีต้องยื่นฟ้อง1.2
ล้านคดี หากมาใช้ระบบ e-Filing จำนวนมากจะช่วยให้ศาลสามารถ
ลดพื้นที่การจัดเก็บสำนวนกระดาษที่ศาลได้ขึ้นอีกมาก
- ประโยชน์ของ e-Filing
- ทนายความสามารถยื่นคำฟ้องทางอิเล็กทรอนิกส์
ผ่านทางเว็บไซต์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่จำเป็นต้องยื่นคำฟ้อง
- ด้านจำเลยสามารถยื่นคำให้การได้
ขอคัดถ่ายและดูเอกสารในสำนวนคดี รวมทั้งสามารถติดตามเอกสารได้ตลอดเวลา
- ส่วนเจ้าหน้าที่ศาลสามารถตรวจสอบเอกสารยื่นคำฟ้อง
คำร้อง พร้อมให้ความเห็นและส่งงานให้ผู้พิพากษาได้ ซึ่งผู้พิพากษาสามารถประทับรับฟ้องได้
- แผนในอนาคต
- ระบบ
e-Filing Version 3 ปัจจุบัน
สามารถรองรับการพิจารณาคดีในส่วนของคดีแพ่ง
โดยทางสำนักงานศาลยุติธรรมมีแผนขยายไปยังการพิจารณาคดีอาญา
- ขยายการให้บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
ทางธนาคารพร้อมจะสนับสนุนสำนักงานศาลยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง
- การเกี่ยวเนื่องกับระบบอื่นๆ
- ธนาคารเป็นผู้ให้บริการรับชำระเงินกับผู้ใช้บริการ
e-Filing ค่าธรรมเนียมต่างๆของสำนักงานศาลยุติธรรมอย่างครบวงจร
ด้วยการชำระผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต เคาน์เตอร์ธนาคาร
ตู้เอทีเอ็ม เว็บไซต์ ตลอดจนแอปพลิเคชั่นกรุงไทย
NEXT
- การร่วมมือกับสำนักงานศาลยุติธรรม
เพื่อพัฒนาระบบศาลดิจิทัล ถือเป็นหนึ่งภารกิจที่ธนาคารให้ความสำคัญ
โดยเป็น 1 ใน 5 Ecosystems ของธนาคาร