สิทธิของจำเลย
1. สิทธิที่จะได้รับหลักประกันในการที่ต้องมีผู้พิพากษานั่งพิจารณาครบองค์คณะ
และผู้พิพากษาที่ไม่ได้นั่งพิจารณาคดีใดจะทำคำพิพากษานั้นมิได้
เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัยหรือเหตุจำเป็นอื่นอันมิอาจก้าวล่วงได้ (รัฐธรรมนูญฯ ม.236)
2. สิทธิที่จะตรวจหรือคัดสำเนาคำให้การของตนในชั้นสอบสวนหรือเอกสารประกอบคำให้การของตน
เมื่อพนักงานอัยการยื่นฟ้องคดีแล้ว (รัฐธรรมนูญฯ ม.241
วรรคสาม)
3. สิทธิที่จะได้รับค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายตามสมควรเพราะเหตุที่ตกเป็นจำเลยในคดีอาญาและถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดีและมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่ามิได้เป็นผู้กระทำผิดหรือการการะทำของจำเลยไม่เป็นความผิด
(รัฐธรรมนูญฯ ม.246)
4. ได้รับการพิจารณาคดีด้วยความรวดเร็ว
ต่อเนื่องเป็นธรรม แต่งทนายแก้ต่างในชั้นไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณาในศาลชั้นต้น
ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา ปรึกษาทนายความหรือผู้ที่จะเป็นทนายความเป็นการเฉพาะตัวตรวจดูสิ่งที่ยื่นเป็นพยานหลักฐาน
และคัดสำเนา ถ่ายรูปสิ่งนั้น
ตรวจดูสำนวนการไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณาและคัดสำเนาหรือขอรับสำเนาที่รับรองว่าถูกต้องโดยเสียค่าธรรมเนียม
ตรวจหรือคัดสำเนาคำให้การของตนในชั้นสอบสวนหรือเอกสารประกอบคำให้การของตน
และทนายความของจำเลยมีสิทธิเช่นเดียวกัน (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา
8)
5. มีสิทธิที่จะขอโอนคดีหรือคัดค้านการขอโอนคดีของโจทก์
(ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 23)
6. มีสิทธิที่จะรับเกียจผู้พิพากษา
(ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 27)
7. สิทธิที่จะไม่ถูกดำเนินคดีซ้ำ
(ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 36(4))
8. สิทธิที่จะไม่ยอมไปพบเจ้าพนักงานหรือศาล
ถ้าไม่มีหมายเรียก (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 52)
9. มีสิทธิที่จะคัดค้านการถอนฟ้องของโจทก์
(ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 35)
10. สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาของศาลโดยเปิดเผยและต่อหน้าจำเลย
(ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 172 วรรคแรก
เว้นแต่จะพิจารณาลับหลังจำเลย (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172 ทวิ)
11. สิทธิที่จะได้รับทราบคำฟ้องและคำอธิบายจากศาล
(ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172 วรรคสอง)
12. สิทธิที่จะแถลงเปิดคดีเมื่อสืบพยานโจทก์แล้ว,
นำพยานหลักฐานมาสืบ (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 174 วรรคสอง วรรคสาม)
13. สิทธิที่จะอยู่ในห้องพิจารณา
แม้ศาลจะพิจารณาเป็นการลับ (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา178 (2) และมีสิทธิอยู่ในห้องพิจารณาฟังพยานอื่นเบิกความโดยศาลไม่มีอำนาจสั่งให้ออกไปอยู่นอกห้องพิจารณา
(ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 236)
14. สิทธิที่จะอุทธรณ์
ฎีกา คัดค้านคำพิพากษาหรือคำสั่ง (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 230)
15. สิทธิที่จะขอไปฟังการเดินเผชิญสืบพยานหรือส่งประเด็นไปศาลอื่น
(ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 230)
16. สิทธิที่จะอ้างตนเองเป็นพยานได้
(ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 233) สิทธิที่จะไม่ยอมให้โจทก์อ้างจำเลยเป็นพยาน
(ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 232)
17. สิทธิที่จะได้รับฟ้องการอ่านคำเบิกความพยานของศาลไม่ว่าในชั้นไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา
(ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 237)
18. สิทธิที่จะอ่านหรือตรวจดู
หรือขอสำเนาซึ่งพยานเอกสาร หรือตรวจดูพยานวัตถุ (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา 240 และมาตรา 242)
19. สิทธิที่จะได้รับการพิจารณากลั่นกรองจากศาลอุทธรณ์กรณีที่จำเลยไม่ติดใจอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต
(ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 วรรคสอง)
20. สิทธิที่จะได้รับการทุเลาการบังคับโทษจำคุกโทษประหารชีวิต
(ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา246, 247,248)
21. สิทธิที่จะทูลเกล้าขอรับพระราชทานอภัยโทษ
(ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 259 ถึงมาตรา 267)