สิทธิของผู้ต้องหาในการขอให้รัฐจัดหาทนายความ
มาตรา 134/1
แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญากำหนดให้เจ้าหน้าที่ของรัฐในการจัดหาทนายความให้แก่ผู้ต้องหาในการสอบสวนคดีอาญาโดยให้พนักงานสอบสวนปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
และให้ทนายความที่รัฐจัดหาให้ได้รับเงินรางวัลและค่าใช้
จ่ายตามระเบียบที่กระทรวงยุติธรรมกำหนดด้วยเจตนารมณ์ที่จะให้ความช่วยเหลือประชาชนทางกฎ
หมาย
โดยการให้มีทนายความเพื่อให้เป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำและช่วยเหลือทางกฎหมายตลอดระยะเวลาการสอบสวนและให้ทนายความมีสิทธิได้รับเงินรางวัลและค่าตอบแทนในการปฏิบัติหน้าที่
ในการนี้
กระทรวงยุติธรรมได้ดำเนินการออกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขที่พนักงานสอบสวนต้องปฏิบัติในการจัดหาทนายความให้แก่ผู้ต้องหาในคดีอาญา
พ.ศ.2549
และระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการจ่ายเงินรางวัลและค่าใช้จ่ายแก่ทนายความที่รัฐจัดหาให้แก่ผู้ต้องหาในคดีอาญา
พ.ศ. 2550
เพื่อรองรับบทบัญญัติดังกล่าว กล่าวคือ
ผู้ต้องหามีสิทธิได้รับการจัดหาทนายความได้
1. คดีที่ผู้ต้อหามีอัตราโทษประหารชีวิตและไม่มีทนายความ
2. คดีที่ผู้ต้องหาที่มีอายุไม่เกินสิบแปดปี
ในวันที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาและไม่มีทนายความ
3. คดีที่ผู้ต้องหามีอัตราโทษจำคุก
ไม่มีทนายความและต้องการให้รัฐจัดหาทนายความให้
กระบวนการส่งเสริมสิทธิแก่ผู้ต้องหาในการสอบสวนคดีอาญา
เมื่อผู้ต้องหาถูกจับกุม
ขั้นตอนที่ 1. พนักงานสอบสวนแจ้งสิทธิและจัดหาทนายความให้แก่ผู้ต้องหาจากรายชื่อทนายความที่มีอยู่ในเขตท้องที่นั้น
ขั้นตอนที่ 2. ทนายความปฏิบัติหน้าที่และยื่นคำขอรับเงินรางวัลและค่าใช้จ่าย
ขั้นตอนที่ 3. ผู้แทนกระทรวงยุติธรรมพิจารณาเบิกจ่ายรางวัลและค่าใช้จ่ายแก่ทนายความ
หน้าที่ของทนายความ
- ให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย
- เข้าร่วมการสอบปากคำ
- ยื่นขอประกันตัวผู้ต้องหา
- รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดี
- ว่าต่างแก้ให้แก่ผู้ต้องหาในขั้นสอบสวน
สิทธิที่จะปฏิเสธไม่รับทนายความที่พนักงานสอบสวนจัดหาให้
เมื่อพนักงานสอบสวนจัดหาทนายความให้แล้ว ถ้ามีเหตุอันสมควรใดที่เห็นว่าทนายความที่จัดหาให้อาจไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ทนายความได้อย่างเต็มความสามารถ
ผู้ต้องหามีสิทธิที่จะไม่รับทนายความที่พนักงานสอบสวนจัดหาได้
เหตุอันสมควรในการปฏิเสธไม่รับทนายความ
-ทนายความมีผลประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องอยู่ในคดี
-ทนายความเป็นญาติเกี่ยวข้องกับคู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง
การร้องขอให้บุคคลอื่นเป็นผู้จัดหาทนายความแทนพนักงานสอบสวน
เมื่อผู้ต้องหามีเหตุอันสมควรที่จะปฏิเสธไม่รับทนายความที่พนักงานสอบสวนจัดหาให้
ผู้ต้องหาหรือผู้ได้รับมอบหมายที่พนักงานสอบสวนจัดหาให้
ผู้ต้องหาหรือผู้ได้รับมอบหมายอาจร้องขอให้บุคคลอื่นเป็นผู้จัดหาทนายความให้แทนพนักงานสอบสวน
โดยอาจทำได้ในวิธีอย่างหนึ่งอย่างใด ต่อไปนี้
1. ร้องขอต่อผู้แทนกระทรวงยุติธรรม
ในกรุงเทพ ได้แก่
อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
ในต่างจังหวัด ได้แก่
ประธานกรรมการบริหารสำนักงานยุติธรรม
2. ร้องขอต่อผู้แทนสภาทนายความ
ในกรุงเทพ ได้แก่
นายกสภาทนายความหรือที่ได้รับมอบหมาย
ในต่างจังหวัด ได้แก่
ประธานสภาทนายความจังหวัดหรือได้รับมอบหมาย
ผู้ต้องหาไม่ต้องจ่ายเงินค่าตอบแทนหรือค่าใช้จ่ายให้แก่ทนายความ
ทนายความมีสิทธิได้รับเงินรางวัลและค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติหน้าทีจากกระทรวงยุติธรรม
ตามระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินรางวัลและค่าใช้จ่ายแก่ทนายความที่รัฐจัดหาให้แก่ผู้ต้องหาในคดีอาญา
พ.ศ. 2550
อัตราเงินรางวัลทนายความที่ปฏิบัติหน้าที่เงินรางวัลทนายความที่ปฏิบัติหน้าที่
คดีประเภทที่
1
คือ คดีที่มีอัตราโทษประหารชีวิต อัตราเงินรางวัล 20,000 บาท
คดีประเภทที่
2
คือ คดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่สิบปีขึ้นไปแต่ไม่ถึงกับประหารชีวิต
อัตราเงินรางวัล 15,000
บาท
คดีประเภทที่
3
คือ คดีอื่นนอกจากคดีในประเภทที่ 1
หรือประเภทที่ 2
หรือกรณีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษในความผิดฐานครอบครองหรือเสพ อัตราเงินรางวัล 10,00 บาท
คดีประเภทที่
4
คือ คดีที่มีอยู่ในเขตอำนาจศาลแขวงและผู้ต้องหาในการรับสภาพ อัตราเงินรางวัล 500 บาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ได้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ
สำนักงานยุติธรรมจังหวัดทั่วประเทศ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ โทร 02 141 2933-34 02 502 8191 02
141 2818 และ www.rlpd.moj.go.th